วลีที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” มีความเป็นจริงอย่างมากในตลาดโลจิสติกส์ยุคใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยความต้องการหลากหลายและมีความคาดหวังในด้านเวลาขนส่งที่รวดเร็ว ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าจึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมีตัวเลือกจัดส่งที่หลากหลายและครอบคลุมทุกระดับการบริการ เช่น บริการ ‘same-day delivery’ ซึ่งขนส่งสินค้าจากซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิต ไปถึงปลายทางหรือผู้บริโภคภายในหนึ่งวัน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สร้างความกดดันแก่ระบบการปฏิบัติการเบื้องหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรผู้มีหน้าที่บริหารจัดการและปฏิบัติการทุกภาคส่วนใน Supply chain

ในประเทศไทย ธุรกิจการขนส่งสินค้าไปยังปลายทาง หรือ ‘Last mile’ นับว่ามีพื้นฐานที่ดี โดยมีผู้ให้บริการคุณภาพมากมายในตลาดฯ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการเหล่านี้มักครอบคลุมเฉพาะบริการการขนส่งสินค้าที่มีขนาดเล็กหรือพัสดุ จึงทำให้มีข้อจำกัดด้านขนาดของสินค้า เนื่องจากไม่สามารถขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่เกินไป อีกทั้งยังมีบางพื้นที่ที่ผู้ให้บริการฯ เหล่านี้อาจให้บริการได้ไม่ครอบคลุม ดังนั้น สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าขนาดใหญ่กว่าพัสดุ ปัญหาที่สังเกตุได้อย่างชัดเจนคือในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานที่ใช้กันโดยทั่วไป และยังไม่มีตัวเลือกที่สามารถดำเนินการได้สะดวกและง่ายเช่นเดียวกับการส่งพัสดุผ่านผู้ให้บริการรายใหญ่

เพื่อให้สามารถเข้าใจปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้น ทางทีม APX ได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่บริษัทแห่งหนึ่งต้องการส่งชิ้นส่วนอะไหล่ หรือผลิตภัณฑ์อาหารหนัก 300 กิโลกรัม จากกรุงเทพฯ ไปอุบลราชธานี แบบเร่งด่วน บริษัทแห่งนี้จะมีตัวเลือกอย่างไรบ้าง

ตัวเลือกการขนส่งในประเทศไทย

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ส่งสินค้า (shipper) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีตัวเลือกค่อนข้างมากหากเทียบกับพื้นที่อื่น แต่ในกรณีนี้การจัดส่งผ่านผู้ให้บริการขนส่งพัสดุเป็นตัวเลือกที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสินค้ามีขนาดใหญ่เกินไป ขณะเดียวกันการเช่าเหมารถบรรทุกหกล้อก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นกัน เนื่องจากสินค้าน้ำหนัก 300 กิโลกรัมจะใช้พื้นที่เพียง 10-15 เปอร์เซ็นต์ของรถเท่านั้น แต่ผู้ส่งสินค้าต้องจ่ายเหมาทั้งคันเพื่อส่งสินค้าปริมาณไม่มากนัก

ดังนั้น ผู้ส่งสินค้าจึงมีทางเลือก 2 ทาง หนึ่งคือการใช้รถกระบะ เนื่องจากเป็นทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ในประเทศไทย และหลายคนยังมองว่าเป็นวิธีการขนส่งที่ราคาถูก และอีกหนึ่งทางเลือกคือใช้งานให้บริการขนส่งแบบไม่เต็มคัน (LTL) ซึ่งดำเนินการในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และอุบลราชธานี

รถกระบะสามารถขนส่งข้ามพื้นที่ได้เหมาะสมหรือไม่ ?

สำหรับการขนส่งผ่านรถกระบะ หากผู้ส่งสินค้าไม่มีผู้ให้บริการฯ เจ้าประจำอยู่แล้ว กระบวนการการค้นหาผู้ให้บริการฯ ที่ตรงตามความต้องการ รวมถึงการตกลงราคา มักใช้เวลามากและมีรายละเอียดที่ไม่แน่นอน โดยถ้าผู้ส่งสินค้าเลือกวิธีนี้ พนักงานขับรถจะเข้าไปรับของถึงจุดรับสินค้าและขับตรงไปยังอุบลราชธานีทันที แต่พวกเขามักไม่สามารถยืนยันได้ว่าการดำเนินงานตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางจะใช้เวลานานเท่าไร เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่น จำนวนครั้งในการพักรถ และสภาพความสมบูรณ์ของตัวรถ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าปลายทางในอุบลราชธานีต้องรอนาน โดยไม่สามารถวางแผนด้านเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้น ราคาสำหรับการขนส่งผ่านรถกระบะอาจดูคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับตัวเลือกขนส่งอื่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ส่งสินค้าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายแฝงในการวิ่งรถเปล่าในขากลับ (empty backhauling) ให้แก่ผู้ให้บริการฯ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาค่าบริการสูงขึ้น โดยไม่ส่งผลประโยชน์ให้แก่ผู้ส่งสินค้าแต่อย่างใด

แม้ว่ารถกระบะจะสามารถขนส่งชิ้นส่วนอะไหล่ หรือสินค้าขนาดกลางได้ แต่ปัญหาอีกประการคือรถกระบะไม่สามารถขนส่งสินค้าประเภทอาหารบางประเภทที่มีน้ำหนักเท่ากันได้ เนื่องจากมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะบรรจุปริมาณทั้งหมด

การทำงานร่วมกับผู้ให้บริการขนส่งแบบ LTL

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการส่งสินค้าในลักษณะนี้คือการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการขนส่งแบบ LTL อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งสินค้าอาจพบปัญหาในการหาผู้ให้บริการที่เหมาะสมที่สุด และบ่อยครั้งผู้ส่งสินค้ายังต้องแบกรับภาระในการขนส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าของผู้ให้บริการด้วยตนเอง ซึ่งผู้ส่งสินค้าบางรายอาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการปฏิบัติการในจุดนี้ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการขนส่ง LTL ส่วนใหญ่ไม่ได้ดำเนินการภายใต้ตารางเดินรถที่แน่นอน โดยรถจะออกเดินทางเมื่อมีสินค้าบรรจุเพียงพอแล้วเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าต้องรอนานถึง 4 – 5 วัน

สำหรับการส่งสินค้าประเภทอาหาร ทางเลือกขนส่งแบบ LTL อาจมีความเหมาะสมมากกว่ารถกระบะ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งสินค้ายังต้องพิจารณาปัจจัยอีกหลายอย่าง เช่น ผู้ส่งสินค้ามักจะต้องชำระค่าขนส่งล่วงหน้า และอาจไม่มีประกันภัยสินค้า ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหากสินค้าสูญหายหรือเกิดความเสียหาย ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้ส่งสินค้าต้องการทราบสถานะการขนส่งสินค้า พวกเขาจะต้องรอจนกว่าใบรับสินค้า (POD) เดินทางจากปลายทางกลับมายังสำนักงานในกรุงเทพฯ ก่อนที่สำนักงานของบริษัทฯ จะส่งต่อถึงผู้ส่งสินค้าในที่สุด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้ต้นทุนทางด้านเวลาและทรัพยากรมาก ทั้งยังยากต่อการติดตามสินค้า

ปัญหาที่พบเพิ่มเติม

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ หากผู้ส่งสินค้าต้องการส่งของจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 800 กิโลเมตร และไม่มีบริการขนส่งตรงจากต้นทางดังกล่าวไปยังอุบลราชธานี ทางเลือกแรกสำหรับผู้ส่งสินค้าในลักษณะนี้คือการขนส่งผ่านรถกระบะ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการขนส่งจะสูงมาก เนื่องจากมีระยะทางไกลถึง 1,400 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการวิ่งรถเปล่าในขากลับ และเวลาดำเนินการยาวนานหลายวัน

สำหรับขนส่งแบบ LTL เนื่องจากไม่มีผู้ให้บริการประจำในเส้นทางจากนครศรีธรรมราชไปอุบลราชธานี ลำดับแรกผู้ส่งสินค้าจะต้องดำเนินการส่งสินค้าของพวกเขามายังกรุงเทพฯ ผ่านผู้ให้บริการฯ รายแรกก่อน จากนั้นจึงจะสามารถส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ ไปยังปลายทางในอุบลราชธานีผ่านผู้ให้บริการอีกราย จึงนับได้ว่าเป็นกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและใช้เวลามาก เนื่องจากต้องประสานการกับหน่วยงานหลายแห่ง เช่น บริษัทประกันภัย จัดการขั้นตอนขนถ่ายสินค้า รวมทั้งต้องรอรับเอกสาร POD ซึ่งมีหลายใบ

การให้บริการของ APX

เพื่อเป็นการมอบทางเลือกการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย APX จึงนำเสนอบริการขนส่งสินค้าบนพาเลท ผ่านเครือข่ายศูนย์กลางการจัดส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่อธิบายไปในข้างต้น บริการขนส่งผ่าน APX จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินได้ 2,860 บาทเมื่อเทียบกับราคาเช่าเหมารถกระบะทั่วไป และประหยัด 10,325 บาทเมื่อเทียบกับรถบรรทุกหกล้อ ขณะเดียวกัน การขนส่งโดยรถบรรทุกจากนครศรีธรรมราชไปยังอุบลราชธานีมีราคาแพงกว่าระบบพาเลทของ APX 7,500 บาท ในขณะที่รถบรรทุกหกล้อแพงกว่า APX ถึง 23,200 บาท

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม APX นำเสนอบริการขนส่งรูปแบบ door-to-door ที่มีตารางเที่ยวรถที่แน่นอนและติดตามสถานะการขนส่งได้ตลอดเส้นทาง โดยมีบริการครอบคลุมทุกที่ในประเทศไทย ภายใต้ราคาที่เข้าถึงได้และคุ้มค่า เพื่อมอบความน่าเชื่อถือ และโปร่งใสให้แก่ลูกค้าของ APX


APX – ให้การขนส่งสินค้าของคุณง่ายดายเสมือนส่งพัสดุ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *